วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ทุกข์ของชาวนา...กระดูกสันหลังของชาติ...ขำจัง

ยังไม่ทันจะสิ้นเดือนดีเลย พี่สาวก็โทรมาขอตังอีกแล้ว 5000 บาทถ้วนๆ บอกว่าถึงเวลาเกี่ยวข้าวรอบแรกแล้วนะ หลายคนที่ไม่เคยทำนาอาจ งง ว่ามีรอบแรกรอบสองด้วยหรอฉันก็เห็นแต่เขาเกี่ยวทีเดียวทั้งนั้น แต่เด๊ยวก่อนครับวันนี้ผมจะเล่าให้ฟัง ด้วยสภาพภูมิประเทศที่แตกต่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งดินแดนที่ราบสูงพื้นที่จะไม่ได้ระดับ จะลุ่มๆดอนๆ ไม่เหมือนในภาคกลาง ดังนั้นการปลูกข้าวจึงต้องใช้พันธ์ข้าวที่แตกต่างกัน นาในที่ดอนหรือที่สูงจากระดับน้ำก็จะลงพันธ์ข้าวที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้นๆให้ทันน้ำฝน เช่นข้าวหอมมะลิ ข้าวนาปรัง เป็นต้น เพราะพอฝนหมดข้าวก็พอยืนต้นทันได้ออกดอกกออกรวงได้เก็บเกี่ยว ส่วนนาในที่ลุมก็จะลงพันธ์ข้าวที่อายุการเก็บเกี่ยวนานขึ้น พันธ์ข้าวก็จะต่างไปอีก ดังนั้นช่วงนี้ทางบ้านก็จะเกี่ยวข้าวหอมมะลิก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งปีนี้ผมลงเยอะด้วยสิเพราะราคามันดีกว่าข้าวพันธ์อื่นๆ และปีนี้ก็ซื้อพันธ์ข้าวมาแพงลิบกระสอบแตะ 750 บาททีเดียว ซื้อมา 8 กระสอบ/6 พันบาทนิด บวกค่าขนให้เขาด้วยเฮอ่แพงตั้งแต่พันธ์ข้าวแล้ว ที่จริงผมเพิ่งกลับไปดูผลผลิตด้วยตัวเองเมื่อต้นเดือนนี้เอง เห้นแล้วก็ชื่นใจ แต่ด้วยความขี้สงสัยปน งก นิดนึงก็โพล่งออกไปว่า * อะไรกัน 5 พันเลยหรอทำไรมั่งอะ* พี่สาวเลยสวนกลับมาทันที ก็จ้างเขาเกี่ยวข้าวไง วันละ 140-150 บาท คราวนี้ผมถึงตาสว่าง โอโฮสมัยนี้ค่าจ้างมันสูงขนาด 140/150แล้วหรอ จำได้ว่าสมัยเรารับจ้างยังวันละ 35 บาทอยู่เลย (นานแล้ว) เฮ่อสมัยนี้อะไรมันก็แพงไปหมดปีที่แล้ว ยัง วันละ 100-110 อยุ๋เลย ถึงราคาข้าวว่าดีแต่ก็ไม่ได้ทำให้ชาวนาร่ำรวยอะไรหรอกครับ เพราะค่าใช้จ่ายอื่นๆจิปาถะ ใหนจะค่าปุ๋ย ค่าไถ ค่าจ้างอื่นๆ อีก ขนาดผมนาแค่ 30 กว่าไร่ ปีนี้ก็ล่อไปเกือบ 3-4 หมื่นนี่ยังรวมค่าเก็บเกี่ยวค่าจ้างในการขนย้ายอีกนะ รวมๆปีหนึ่งๆผมก็ลงทุนไปอย่างน้อยก็ 5 หมื่นกว่าบาท บางคนอาจมองว่าน้อยนิดแต่สำหรับผมมันค่อนข้างเยอะนะ แต่ทำไงได้เราไม่ได้ไปทำเอง ก็ต้องจ้าง มันไม่เหมือนสมัยก่อนที่มีการลงแขกเกี่ยวข้าว เราไปช่วยเขาเขามาช่วยเรา จะให้จ้างรถมาเกี่ยวมันก็ไม่คุ้มเพราะแพงเหลือเกิน แค่นี้ก็แทบไม่เหลืออะไรแล้ว บางคนมองแต่ว่าราคาข้าวดี แต่ไม่ได้มองว่าชาวนาลงทุนสูงแค่ใหน เพราะราคาปุ๋ยจากกระสอบละ 500-600 ก็เป้น 1000-1200 คือยิ่งราคาข้าวดี ราคาปุ๋ยก็ดีตามเป็นเงาตามตัว ซึ่งรัฐบาลไม่ได้ลงมาดูปัญหาที่แท้จริงของชาวนาเลย แค่ตีฆ้องร้องป่าวว่าราคาข้าวดีเพื่อให้ชาวนาได้ดีใจ แต่ไม่ได้มาดูแลราคาปุ๋ย ยาฆ่าแมง ยาปราบศัตรูพืช ที่ขึ้นราคาไปดักคอชาวนาก่อนแล้ว ต่อให้รํบขึ้นราคาแค่ใหน ชาวนาก็ไม่มีวันร่ำรวยได้หรอก ผมเองก็ใช่จะอยากทำนา หรือหวังรวยจากการทำนา แต่เพราะมันคือสมบัติที่พ่แม่ท่านหวงแหนหาไว้ให้ จะละทิ้งก็เสียดายก็เลยต้องสืบทอดเจตนารมของท่านด้วยการเป็นเกษตรกรจำเป็นจนถึงทุกวันนี้...

1 ความคิดเห็น:

Madame Tabb กล่าวว่า...

เฮ้อ!น่าเห็นใจชาวนาจริงๆนะคะน้องณะชะ
แตบเคยดูรายการที่เกี่ยวกับปัญหาของชาวนาจากในทีวีบ่อยๆค่ะ ดูแล้วเข้าใจ+เห็นใจมากๆ ราคาข้าวสูงขึ้นแต่ชาวนาไทยยังไม่เคยลืมตาอ้าปากได้สักที เพราะต้นทุนการผลิตต่างๆก็สูงขึ้นเป็นเงาตามตัวไปด้วย มิหนำซ้ำยังมีพวกเศษมนุษย์ถือโอกาศคดโกงตาชั่งด้วย(อันนี้ขอประณาม)
พูดถึงเรื่องเกี่ยวข้าวแล้วอดชื่นชมคนสมัยก่อนไม่ได้เลยนะคะ ชาวบ้านจะรวมกลุ่มไปลงแขกช่วยกัน บรรยากาศการทำนาก็สนุกสนานดี แต่ปัจจุบันคงไม่มีภาพนั้นให้เห็นแล้วล่ะค่ะ